บันทึกท่องเที่ยวไปกับสายการบิน Royal Brunei Airlines ของหนิง ศรัยฉัตร ตอนที่ 2 “เที่ยวบรูไนวันที่ 1”

บันทึกท่องเที่ยวไปกับสายการบิน Royal Brunei Airlines ของหนิง ศรัยฉัตร ตอนที่ 2 “เที่ยวบรูไนวันที่ 1”


 – Exploring Brunei Day 1 –

 

สวัสดีค่ะ

การไปเที่ยวประเทศบรูไนสร้างความตื่นเต้นให้หนิงอย่างมาก เพราะไปครั้งแรก และหนิงแทบจะไม่มีคนรู้จักมีโอกาสได้ไปเลย หนิงกลับคิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะนำประสบการณ์เที่ยวมาแชร์กัน และอยากลบคำพูดที่บอกว่า บรูไนไม่มีอะไรเที่ยว ! จริงไม่จริงมาอ่านกันเลยค่ะ

รูปเยอะหน่อยนะคะ แบบว่าอยากให้เห็นจุใจกันเลย สามารถกดแต่ละรูปได้เพื่อดูภาพขยายค่ะ

Since this is my first time visiting Brunei, I was of course very excited. I hardly know anyone there. And on the contrary to what I’ve heard, there are so many things to do and places to visit. Read on and you can see for yourself.

This entry have many photos. You can see the full photos size by click on the photos.

 

 

ก่อนไป หนิงต้องใช้วิธีอ่านหนังสือ หาข้อมูลท่องเที่ยวทางเพื่อเป็นความรู้ เว็บท่องเที่ยวของบรูไนคือ www.bruneitourism.tavel หลังอ่านถึงทราบว่าเราไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเข้าประเทศบรูไน ตราบเท่าที่เราอยู่ไม่เกิน 14 วัน ถ้าอยู่เกินถึงต้องทำการของวีซ่าค่ะ ส่วนเงินที่แลกไปเนื่องจากค่าเงินของดอลล่าบรูไนเท่ากับสิงคโปร์ ใช้แทนกันได้ หนิงเลยเงินสิงคโปร์ไปค่ะ แลกไม่มาก เพราะมีคนบอกไว้ว่า ไม่มีอะไรให้ช็อปมาก ไปดื่มด่ำวัฒนธรรมของเขาดีกว่า แต่ก็เตรียมเงินพอซื้อของจุ๊กจิ๊กและเผื่อให้ทิปไกด์ค่ะ

Before traveling I did some research through www.bruneitoursim.travel. I found out there is no need to apply for a visa into Brunei unless you’re planning to stay for more than 14 days. Since the rate for Brunei dollars is equivalent to that of Singapore’s I’ve decided to bring Singapore dollars. I brought not too much but just enough for souvenir shopping and tipping the tour guide.

 

rb2001

 

เราขึ้นเครื่อง Airbus A320 สายการบิน Royal Brunei Airlines มุ่งหน้าสู่ เมืองหลวงของบรูไน บันดาร์เสรีเบกาวัน (Bandar Seri Begawan) จากสุวรรณภูมิใช้เวลา 2 ชั่วโมง 45 นาทีค่ะ ถึงประมาณเที่ยงคืนกว่า สนามบินเลยดูเงียบเหงาเพราะไม่มีคนแล้ว สังเกตุเห็นว่าสนามบินกำลังทำการปรับปรุงใหม่ มีการก่อสร้าง ต่อเติมบางส่วนค่ะ หลังผ่านตรวจคนเข้าเมืองเสร็จ เราก็เดินออกมาเจอไกด์ชาวบรูไน ชื่อทอมมี่ที่จะพาเราตะลุยบรูไนสองวันเต็มค่ะ (ขอแนะนำว่าใครที่ไปเที่ยวควรจ้างไกด์ เพราะที่นี่ผู้คนส่วนใหญ่มีรถยนต์ใช้ ทำให้มีรถแท็กซี่ และรถเมล์ค่อนข้างน้อย) อากาศค่อนข้างร้อนชื้นไม่ต่างจากเมืองไทย พอได้ขึ้นรถตากแอร์ก็สบายหน่อย

The flight on Airbus A320 Royal Brunei Airlines via the capital city of Brunei, Bandar Seri Begawan, took approximately 2:45 mins. We arrived around midnight therefore the airport was pretty quiet and parts of it were under renovation. We had a local guide who showed us around for two days. It is highly recommended for you to hire a guide as most of the population have cars therefore you can see very few public transportation such as taxis and buses. The weather is very much like Thailand, quite hot and humid.

 

rb2002

 

ทอมรีบพาเราไปโรงแรมเพื่อให้เราได้พัก ใช้เวลา 15 นาทีก็ขับถึงโรงแรมที่ใหญ่และหรูหราที่สุดในบรูไน The Empire Hotel and Country Club ล็อบบี้ยิ่งใหญ่สวยงามมาก มีพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์และพระราชินีแห่งบรูไนประดับอยู่บริเวณนี้ด้วย (รวมถึงอีกหลากหลายสถานที่ในบรูไน) เดินเข้ามาได้ 30 วินาที เกิดอาการหนาวยะเยือกกันทั้ง 3 คนพ่อแม่ลูก ทอมรีบบอกว่า อย่าตกใจ!ด้วยอากาศที่ร้อนจัดของที่นี่ คนนิยมเปิดแอร์กันแบบเย็นมาก และทุกที่!! เอ่อ เย็นขนาดไหนลองคิดดู เบลล่าบอกว่า “แม่คะ ประเทศนี้หนาวจัง”

Our tour guide Tom took us to our hotel which took only 15 minutes. The Empire Hotel and Country Club is perhaps one of the most extravagant hotels in Brunei. The lobby is enormous, not to mention gorgeous and beautifully decorated with the royal portraits of the King and Queen of Brunei. Immediately after walking into the lobby we shivered from the coldness of the air conditioner. We were told by Tom that this is not uncommon. You can expect the air conditioners to be turned on really high since it is extremely hot in Brunei.

rb2003

 

พอถึงห้อง ซึ่งเป็นห้อง deluxe room แกะดูจดหมายที่โรงแรมให้พร้อมคีย์การ์ด เพิ่งเห็นว่ามีแผนที่โรงแรมให้ดูด้วยเพราะมันใหญ่จริงๆค่ะ ห้องพักของเราเป็น sea view เห็นวิวทะเล ห้องใหญ่สบาย ห้องน้ำแสนหรูหรา และมีผลิตภัณท์ของ Elemis ให้ใช้ค่ะ ไม่ทันได้ชมอะไรมากมาย ก็รีบนอนกันก่อนเพราะง่วงมากแล้ว

We stayed in a deluxe room with a sea view. Since the hotel is extremely big we were given a map of the hotel. The room was huge and the bathroom was very lavish with products from Elemis for us to use.

 

rb2004

 

เราตื่นกัน 7 โมงเช้า ถึงได้เห็นวิวทะเลสวยๆในห้องนอนของเรา จากนั้นก็ รีบลงมาทานอาหารเช้าด้วยความหิว ทั่วทั้งโรงแรมจะเป็นโทนสีทอง พร้อมแชนดาเลียที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้สวยงามยิ่งใหญ่มากมายหลายจุดด้วยกัน มีวิวทะเลสวยๆระหว่างทาน เพิ่งเห็นว่าโรงแรมนี้ใหญ่จริงๆ อาหารเช้าบุฟเฟ่ต์จัดเต็ม มีข้าวต้ม เครื่องแกง ผัดบะหมี่ แต่หนิงลองทานก๋วยเตี๋ยวของเขาดู มีมะนาวบีบเสริมรสชาติ เอร็ดอร่อยทีเดียว และเนื่องจากประเทศนี้ไม่ทานหมู ก็จะมีเบคอนเป็นเนื้อให้ทานแทน สามีถูกอกถูกใจ

We woke up at 7am to a breath taking view of the sea. The interior of the hotel is beautifully adorned with many chandeliers made from Swarovski crystal. The view of the sea can be seen throughout. There was a wide selection of food and delicacies served at the buffet. Because the Bruneian’s don’t eat pork, bacon was served instead.

rb2005

 

rb2006

9 โมงตรง ทอมก็มารับเราไปลุยตลาดสดชื่อดังของบรูไนที่ชื่อว่า เคียงเกะ (Kianggeh ) ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำชื่อเดียวกันนี่แหละค่ะ คนที่นี่จะภาคภูมิใจกับตลาดแห่งนี้มาก เพราะถือว่าใหญ่สุด มีของมากสุด ทั้งของแห้ง ของสด อดถ่ายรูปไม่ได้สีสันของเหล่าอาหารมันจัดจ้านดีจริงๆ นอกจากนี้ยังมีเหล่ารากไม้สมุนไพร ของชำร่วย และผลิตภัณท์พื้นเมือง ใครอยากได้ของฝาก มาที่นี่ที่เดียวจบ เดินไปเดินมาเห็นขนมน่าทานคล้ายขนมถังแตกเลยลองซื้อทาน รสชาติใก้ลเคียงเลยค่ะ

We were picked up by Tom at 9 am and he took us to the famous Kianggeh market which is right next to the Kianggeh River. The people here are very proud of this market because not only is it the biggest market but it is as filled with an abundance of local delicacies, fresh food, herbs and spices and handicrafts. Unfortunately I couldn’t take photos of the vibrant and vivid colors of the food. I tried a dessert that tasted very much like a Thai desert called tung taeg.

rb2007

 

วันที่เราเดินตลาดเป็นวันศุกร์ซึ่งจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะปิดเร็ว คือเที่ยง เพื่อให้ทุกคนกลับไปสวดมนต์ที่มัสยิด ดังนั้นสถานที่ต่างๆจะปิดทำการตั้งแต่เวลา เที่ยงถึงบ่าย 2 ค่ะ เราเลยต้องทำเวลากันนิด เดินเสร็จก็ข้ามถนนไปวัดจีนเพื่อไหว้พระและถ่ายรูปกันอีกซักหน่อย สังเกตุเห็นว่าตลอดการเดินทางจะเห็นวิวมัสยิดโดมทองสวยๆตลอดทาง ที่นี่เขาให้ความสำคัญกับศาสนามาก คล้ายเมืองไทยที่ขับไปไหนมาไหนจะเจอวัดเสมอ

It was a Friday therefore the market was very lively and bustling with people. The shops close from noon-2 pm for praying sessions so we had very limited time. We then headed on over to the Chinese temple to pray and take pictures. One can see many mosques across the country because religion is of great importance here.

 

rb2008

จากนั้นทอมก็พาเรามุ่งหน้าไป Malay Technology Museum พิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติความเป็นอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของชาวมาเลย์ ทำไมต้องเป็นมาเลย์ ก็เพราะ บรูไนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมาเลเซียมาก เชื้อชาติคนในประเทศกลุ่มใหญ่เป็นมาเลย์ ทำให้ มีวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา และการแต่งกายที่คล้ายคลึงกัน คนที่นี่จึงใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาหลัก รองคือภาษาอังกฤษและจีนสำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เน้นเสนอวิถีชีวิตในหมู่บ้านน้ำกัมปงไอเยอร์ของชาวมาเลย์ในบรูไน การค้าขายทางเรือ วิธีการตกปลา และผลิตภัณท์พื้นเมืองของเขาค่ะ จากการชมจะเห็นว่าหมู่บ้านน้ำนั้นมีมานมนาน มีการเสนอบ้านแบบต่างๆที่พัฒนาตามกาลเวลา ปัจจุบันผู้คนเริ่มทยอยมาอยู่บกแทน แต่ทางรัฐบาลบรูไนก็พยายามอย่างมากที่จะสนับสนุนให้ผู้คนอนุรักษณ์หมู่บ้านน้ำนี้ไว้นะคะ เพราะที่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ทั่วโลกอยากเดินทางมาสัมผัสใครมาที่นี่ไม่เสียค่าเข้าค่ะ

Tom then took us to Malay Technology Museum which features how things were in the past up until present day. Brunei has had a close relationship with Malaysia therefore most of the population are made up of Malaysians with similar culture, language and attire. The main language used here is hence, Malaysian followed by English and Chinese.The museum also features how things were done in ancient times like fishing, how houses have changed over time and how their arts and crafts are made. In the past, people tend to live by the water but nowadays people have moved on ground. The government encourages their people to preserve this so called water-side village. Tourists from around the world travel here to experience this. The museum offers free entrance.

rb2009

 

 

เราเดินชมกันประมาณชั่วโมงนึง ก็มุ่งหน้าไปทางข้างกลางวันที่ร้านอาหารชื่อ Aminah Arif เนื่องจากไม่รู้จะสั่งอะไรดี ทอมสั่งให้หมด ออร์เดฟของเขาเป็นผักจิ้มซอสเผ็ดๆ เบลล่าถูกใจมากเนื่องจากชอบของเผ็ด มีผัดเปรี้ยวหวานไก่ ผัดผัก ต้มยำ ทานกับข้าวเหมือนอาหารไทยเรานี่แหละค่ะ หลังจากชิมทุกจาน ขอบอกว่าผัดเปรี้ยวหวานของเขาอร่อยสุดยอด

After an hour at the museum, we went to have lunch at a restaurant called Aminah Arif. Tom ordered for us and we ended up eating many dishes that resembles Thai food such as sweet and sour chicken, spicy soup and fried vegetables . I particularly enjoyed the sweet and sour chicken.

rb2010

 

ทานเสร็จ ทอมรีบส่งเรากลับโรงแรม ได้เห็นตัวโรงแรมแล้วค่ะ (เพราะเมื่อคืนเช็คอินดึก มองอะไรไม่เห็น) ที่ต้องรีบส่ง เพราะทุกวันศุกร์ ผู้คนในบรูไน จะต้องไปสวดมนต์ ฉะนั้นทุกอย่างจะปิดตั้งแต่เวลาเที่ยงถึงบ่าย 2 และเหล่ามัสยิดจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน การทำงานราชการบรูไนโดยส่วนใหญ่จะหยุดวันศุกร์อยู่แล้ว และทำงานวันเสาร์ ซึ่งไม่มีใครบ่น เพราะทุกคนชินกับธรรมเนียมแบบนี้ตั้งแต่เกิด แต่สำหรับเอกชนจะหยุดเสาร์อาทิตย์ค่ะ เรา 3 คนไม่รู้จะทำไร ปิดในที่นี่คือปิดทุกอย่าง แม้กระทั่งสระว่ายน้ำโรงแรม เราเลยตัดสินใจ หลับกลางวันกัน 3 คน ตกใจอ่า… จำไม่ได้ว่าหลับกลางวันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ .. มันสะท้อนให้หนิงรู้สึกว่า ประเทศนี้ เขาไม่มีความเร่งรีบ ไปไหนมาไหนหลายที่ในแต่ละวัน เพราะรถไม่ติด มีเวลาพักผ่อน ใช้ชีวิตสงบแบบช้าๆ ด้วยความที่เป็นประเทศที่เล็กๆ ร่ำรวย การบริหารจัดการจึงแสนง่าย .. หลังหลับกันไปชั่วโมงกว่า ทางโรงแรมเชิญหนิงชมความยิ่งใหญ่ของโรงแรม ส่วนพี่โบ๊ตและลูก ขอตัวไปสำรวจสระว่ายน้ำ (อยากไปว่ายน้ำนั่นแหละ) เลยแยกกัน 1 ชั่วโมง

After lunch, we were quickly dropped off at the hotel. Like I said every Fridays shops will be closed for two hours at noon for their praying session. Government offices are typically closed on Fridays and open on Saturdays whilst private offices are closed on the weekends. When I say everything is closed I do mean everything, including the swimming pool at the hotel. Since we had nothing to do we took an afternoon nap. This made me realize that people here prefer the slow life, not much hustle and bustle during the day, no rushing etc. After we woke up, the hotel staff took me on a tour of the hotel whilst my husband and daughter went for a swim.

rb2011

 

หนิงจะได้พบกับ คุณ Hafiza Mohamad ซึ่งเป็นPR & Marketing Communications Manager ของโรงแรม คุณ Hafiza พาหนิงไปชม 2 ห้อง highlight ของ The Empire Hotel หนิงยังไม่รู้ ว่าห้องอะไร เพราะไม่ได้ศึกษามาก่อนเลยว่า โรงแรมนี้ดังขนาดไหน หนิงขึ้นลิฟต์ไปด้วยความงงๆ มาถึงชั้นนึง เดินออกไปก็พบกับความสวยงามของวิวทะเล และล็อบบี้เล็กๆ แต่หรูหรา ด้วยแชนดาเลีย และการประดับประดาเสา เพดานด้วยสีทอง Hafiza บอกว่า นี่คือโถงด้านหน้าก่อนเข้าห้องชื่อ Emperor Suite และ ห้องชื่อ Empress Suite เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่เห็นนี้สั่งทำและส่งตรงจากประเทศอิตาลี

The PR and Marketing Communications Manager name Hafiza Mohamad showed me to the two highlights of The Empire Hotel. First of which is the lobby area in front of the emperor suite and the empress suite. Although it was small but it was nevertheless decadent with an amazing sea view. It was magnificently decorated with beautiful chandeliers and all of the furniture have been imported from Italy.

rb2012

 

จากนั้นก็นำหนิงเข้าห้อง Empress ก่อนค่ะ เปิดประตูเข้าไป หนิงถึงกับตะลึง ว้าว!!! มันใหญ่ หรูหรามาก ห้องนี้ค่าที่พักตกคืนละ 9,000 US ดอลล่าร์ แม่เจ้าไปคูณกันเอาเอง เธอบอกว่า ทั้ง 2 ห้องใช้สถาปนิกกว่า 22 คนในการออกแบบ ห้อง Empress มีขนาด 345 ตารางเมตร เปิดประตูเข้าไปปุ๊บจะเจอห้องรับแขกก่อน ระหว่างเดินชม เธอบอกว่าทั้งสองห้องนี้มีไว้ต้อนรับ ผู้นำทั่วโลก แขกของประเทศ แต่ใครใคร่มาพักผ่อน พร้อมจ่ายตังก็แสนยินดีค่ะ มีแกรนด์เปียโนตั้งเด่นตระหง่าน ผนังประดับด้วยผ้าไหม และแน่นอนขาดไม่ได้ แชนดาเลียระยิบระยับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้

she then took me to the empress suite. I was literally in awe of how enormous and spectacular it was. It costs 9,000 us dollars per night. It took more than 22 architectures to design both suites . The walls are upholstered with silk , ceilings are hanged with stunning swarovski chandeliers and there’s also a grand piano. The empress suite which is 345 meters wide is most often used to welcome the world’s leading figures and VIP guests of the country.

rb2013

 

 

ห้องถัดไปคือห้องนอน นี่ถ้าไม่รู้ราคาก่อน คงขอกระโดดไปนอนเล่นนะฮะ มองไปด้านบนเตียง มีกระจกบนเพดานซะด้วย พรมทุกห้องทออย่างวิจิตร ห้องน้ำซึ่งอยู่ห้องถัดไป มีอ่างสวยหรูหราที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตก ก็อกน้ำเคลือบทองเค พื้นหินอ่อนมีผลิตภัณท์ Asprey ให้ใช้ภายในห้องน้ำ มีห้องเสื้อผ้าแต่งตัวใหญ่พอใช้ได้ มีห้องประชุมภายในห้องนี้อีกด้วยค่ะ

The ceiling above the bed is embedded with a mirror. The carpets have been elaborately woven. The jacuzzi overlooks the sunset view . The faucet is gold encrusted. Asprey products are provided for use in the bathroom. There’s also a spacious dressing room and a meeting room in the suite as well.

 

 

 

rb2027

 

 

อ่ะ ตะลึงกันไม่พอ คุณ Hafiza พาหนิงไปห้องฝั่งตรงข้าม ห้อง Emperor ต่อทันที แค่เปิดประตูเห็นทางเดินทอดเข้าสู่ห้องก็แสนยิ่งใหญ่แล้ว เธอบอกว่า ห้องขนาด 666 ตารางเมตรนี้ อดีตประธาราธิบดี บิล คลินตันก็เคยมาพักที่นี่ รวมถึงคนดังอีกมากมาย ห้องนี้ได้รับรางวัล The World’s Leading Presidential Suite จาก the World Travel Awards ปี 2003 และ 2004, สนนราคาเบาๆ คืนละ 16,000 US ดอลล่าห์ แอบคิดในใจ ..ใคร้!! จะมาพัก เหมือนเธอจะอ่านใจได้ แล้วเล่าว่า ไม่นานมานี้มีมหาเศรษฐีจากรัสเซีย มาพักห้องนี้ทั้งครอบครัว อาทิตย์กว่า และจ่ายเต็มคร้าบ …. เฮ้อ บุญวาสนาว่ากันไม่ได้จริงๆ

As if that wasn’t amazing enough, Hafiza took me to the emperor suite. The 666 meters suite has welcomed the former president Bill Clinton and the likes of many other dignitaries. This suite has received The World’s Leading Presidential Suite from the World Travel Awards in 2003 and 2004 and costs 16,000 us dollars per night. Just recently a Russian millionaire stayed here with his entire family for more than a week.

rb2015

 

 

เธอเสริมว่า พรมทุกผืนทอจากเส้นด้ายทองคำ มีแกรนด์เปียโนในห้องประชุม ถัดไปอีกนิด เธอชี้ให้ดูว่า มีลิฟต์ส่วนตัวอีกด้วย สำหรับแขกสำคัญที่ต้องการรักษาความปลอดภัยและต้องการความเป็นส่วนตัวยิ่ง เริ่ดจริงๆถัดไปเป็นอีกหนึ่งห้องประชุมหรูหรา

All the carpets have been woven with gold. There’s a grand piano in the meeting room. There’s also a private lift for VIP guests who demand privacy and security. Next to this is the meeting room.

rb2016

 

 

ต่อด้วยเตียงนอนที่ แหม ช่างเหมือนเตียงในพระราชวังจริงๆ ขนาดเพดานยังออกแบบอย่างวิจิตร ละเอียดทุกจุด ห้องน้ำของ Emperor ใหญ่กว่า Empress ค่ะ ได้เห็นวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกชัดเจน มีผลิตภัณท์ Aspreyให้ใช้ในห้องน้ำเช่นกัน เชื่อไหมคะ หนิงตื่นเต้นจนต้องตามลูกและสามีมาชมอีกรอบตอนเย็น อยากให้เขาได้เห็น ซึ่งคุณ Hafiza ก็น่ารักมากได้พามานั่งอีกรอบนึง

Every inch of the room is meticulously and elaborately designed. It is bigger than the empress suite and you can catch the breathless view of the sunset. I took my husband and daughter up there once again just to watch the sunset.

rb2017

 

ยังไม่หมดค่ะ คุณ Hafiza ค่อยๆเปิดประตูเข้าสู่อีกหนึ่งห้อง .. แม่เจ้า ไม่มีวันลืม มันคือสระว่ายน้ำอันแสนหรูหรา ที่มีอยู่ในห้องพักเลย … ภายในห้องสระนี้ มีจอให้ชมภาพยนต์ มีเคาเตอร์บาร์ มีที่นั่ง มีอ่างจากุซซี่ ห้องซาวน่า เรียกว่าจ่ายแล้วไม่ต้องไปไหน ..ใช้ห้องให้คุ้มไปเลย

Hafiza saved the best for last.She took me to the swimming pool which is right in the room. There’s a movie screen, a bar , a Jacuzzi and a sauna. All in all, it’s worth every penny spent.

rb2018

หลังจากนั้น คุณ Hafiza ก็พาหนิงนั่งรถกอล์ฟไปส่วน Country Club ต่อ เพราะที่นี่มีสนามกอล์ฟด้วยค่ะ เธอพาไปดูว่ามีส่วนของที่เล่นโบลิ่ง เสียดายมีเวลาน้อยเลยไม่ได้ไปเล่น มีในส่วนของสปา ระหว่างเดินชมนีห้องเต็มหมด อดอีก! เลยไปดูส่วนของฟิตเนส สนามเทนนิส สนาม สควอช สนามแบดมินตัน สระว่ายน้ำในร่ม และไปดูจุดสตาร์ทออกรอบตีกอล์ฟอีกด้วย เธอบอกว่าสนามกอล์ฟที่นี่มีชื่อมาก ได้รับรางวัลมากมายและ ออกแบบโดย Jack Nicklaus ใครชอบกีฬาชนิดนี้ต้องแวะมาลองฝีมือหน่อยแล้วค่ะ หนิงพูดเบาๆของหนิงคนเดียวว่า โรงแรมนี่มันยิ่งใหญ่ยังกะพระราชวังจริงๆ คุณ Hafiza รีบบอก เดิมที ก็สร้างเพื่อจุดประสงค์นี้แหละ พระราชโอรสขององค์สุลต่านตั้งใจสร้างให้เป็นวัง แต่ด้วยปัญหาเรื่องการลงทุน เลยเปลี่ยนเป็นโรงแรมแทน และมีกระทรวงการคลังถือหุ้นด้วยค่ะ

Then we took the golf cart to the country club. You can expect a golf course, a bowling alley, a spa, a fitness, a tennis court, a squash court, a badminton court and a swimming pool. This is not just any ordinary golf course as it has received numerous awards and is designed by the famous Jack Nicklaus. I can honestly say that it looks very much like a palace. Hafiza said initially that was planned by the son of the sultan but due to financial problems it was turned into a hotel and the ministry of finance has become a partner.

rb2019

 

หลังจากชมโรงเเรมเสร็จ ทอมก็มารับไปเที่ยวต่อทันที อย่างว่าประเทศขนาดเล็ก รถไม่ติด มีประชาชนประมาณ 400,000คน วันๆนึงไปไหนได้หลายๆที่ อิจฉาจริงจริ๊ง โดยเฉพาะเรื่องน้ำมัน ! คุณพระขับผ่านปั๊ม ถึงขนาดขอให้ทอมวนเข้าไปจอดในปั๊มหน่อย ขยี้ตาอีกรอบ เอ่อ น้ำมันที่นี่ลิตรละประมาณ 12 บาท เอานะคนไทยสู้กันต่อไป

After touring the hotel, Tom picked us up and took us out for more sight seeing. Because this is a small country with a population of only 400,000, it is not to my surprise that there is hardly any traffic. One can commute to so many places in one day. You wouldn’t believe me if I told you that the price of gasoline is only 12 baht per liter.

rb2020

 

ทอมบอกว่าเตรียมกล้องให้ดีนะ เรากำลังขับผ่าน พระราชวัง Istana Nurul Iman ของพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดีน วัดเดาละห์ แห่งบรูไน เนื่องจากจอดรถหน้าพระราชวังไม่ได้ แต่จะขับช้าๆ เพื่อให้ถ่ายประตูทางเข้า หลังจากนั้น เราก็ไปจอดห่างๆเพื่อถ่าย พระราชวังจากมุมไกลๆค่ะ ทอมบอกว่า พระราชวังแห่งนี้ทาง Guinness World Records ได้ทำการจัดอันดับเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้เข้าไปชมไม่ได้ แต่ถ้าใครสนใจ โดยปกติหลังวันตรุษอีดซึ่ง เป็นวันเฉลิมฉลองในศาสนาอิสลามทุกปี พระองค์จะอนุญาติให้ประชาชนเข้าพบได้ 3 วัน .. เข้าพบในทีนี้ หมายถึงเข้าไปในพระราชวัง เพื่อจับพระหัตถ์ของพระองค์ท่านและยังได้รับของขวัญ อาหารจากพระองค์ท่านอีกด้วย

We had our cameras ready for our next destination which is The Royal Palace Istana Nurul Iman. We are not allowed to stop infront of the royal palace therefore we had to drive by slowly. We took some photos from a distance. This palace has been stated by Guinness world records as the biggest palace in the world.The palace is not open to the public except on the annual Islamic celebration of Hari Raya Aidilfitri (the festival at the end of the Muslim fasting month) when the palace receives about 110,000 visitors over a three-day period where the guests receive gifts of food from His majesty the king

rb2021

 

rb2026

Photo from http://en.wikipedia.org/wiki/Istana_Nurul_Iman

 

เรามุ่งหน้าสู่ อาคาร Royal Regalia ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บเครื่องราชที่ใช้ในพิธีราชาภิเษก สมเด็จพระราชาธิบดี ก่อนเข้าต้องถอดรองเท้า ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้า และเข้าไปด้านในปั๊บ จะได้เห็นราชรถที่ประดับลวดลายและตกแต่งด้วยทำคำแท้ ส่วนนี้ยังถ่ายภาพได้ค่ะ แต่ด้านในจะไม่สามารถถ่ายได้แล้ว ซึ่งจะเป็นการโชว์พระมหามงกุฎที่หาค่ามิได้ขององค์สุลต่าน,เครื่องใช้ต่างๆในพระราชพิธีสำคัญ ประวัติของสุลต่านทุกพระองค์ และของขวัญพิเศษต่างๆจากเหล่าผู้นำประเทศทั่วโลก แต่วันนั้นที่ไป หามงกุฎไม่เจอ ทอมบอกว่า มีการนำมงกุฎไปโชว์ในนิทรรศการอีกแห่ง และสัญญาหนิงว่าจะพาไปวันรุ่งขึ้นค่ะ ขาออกจะมีร้านขายของที่ระลึกเล็กๆให้ช็อป หนิงซื้อแม่เหล็กติดตู้เย็น เพราะสะสมค่ะ มีการแจกแผนที่บรูไนเล่มเล็กให้ด้วย ไม่ลืมที่จะคว้ามา

We then stopped by the Royal Regalia, a museum that includes all the items which are deemed sacred and symbolic of the supremacy and authority of the king of Brunei. It is a well kept and well documented look at the Bruneian Sultan’s life and successes. We must take off our shoes before entering and there is no entrance fee. Unfortunately we didn’t see the royal crown as it has been moved to be displayed at another exhibition.

 

 

rb2022

 

จากนั้นก็มุ่งหน้าพักผ่อนที่โรงแรม เห็นไหม บอกแล้วมาที่นี่ใช้โรงแรมคุ้ม เพราะมีเวลาเหลือเฟือ เราพ่อแม่ลูกพักแป๊บเดียว เพราะอยากรอชมพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งก็ว่ากันว่า ที่ล็อบบี้โรงแรมนี่แหละ วิวสวยสุด หรือจะไปชมใกล้ๆ ก็เดินไปบริเวณริมสระติดทะเลเลย เราถือโอกาสชมสระว่ายน้ำอันใหญ่มหึมา มีหลายสระด้วยกัน เอาใจทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล็ก พอพระอาทิตย์ใกล้ตก เรา 3 คนนั่งซึมซับวิวอันแสนสวยงามนี้ อยู่ประมาณ 20 นาที

After returning to the hotel, we enjoyed the stunning sunset view by the swimming pool for 20 minutes. There are many different swimming pools which caters to the needs of both adults and children.

rb2023

 

ชมวิวเสร็จ เราก็เดินไปทานอาหารค่ำที่ร้าน Pantai Restaurant เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำของโรงแรมนี่แหละ อยู่ติดสระว่ายน้ำเลยค่ะ ตัวร้านน่ารักมาก ดูสีสันสดใส ทันสมัย เห็นแล้วหนิงรีบไปเดินสำรวจทันที มีก๋วยเตี๋ยวผัด อาหารทะเลสดๆ ซึ่งน่าภูมิใจ เพราะมีซอสซีฟูดเขียนเด่นชัดว่า Thai Sweet Sauce ด้วยนะคะ มีอาหารท้องถิ่น อย่างเครื่องแกง ไก่สะเต๊ะ สลัด พาสต้า ทานกันเต็มเหนี่ยว ทานไปคุยไปอย่างสนุกสนาน

We had dinner at Pantai Restaurant which is the hotel’s restaurant right by the swimming pool. The buffet included fried noodles, an assortment of fresh seafood, chicken satae, salad pasta and also Thai sweet sauce.

 

rb2024

 

อ้อ! ลืมบอก ที่สนุกสนานก็เพราะ มื้อนี้หนิงจะได้พบประชาสัมพันธ์ของ สายการบิน Royal Brunei Airlines (ที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวในครั้งนี้) และ บล็อกเกอร์ชื่อดังของบรูไนอีก 2ท่าน พีอาร์ของ RB (Royal Brunei Airlines) ชื่อ Muaz ส่วนบล็อกเกอร์อีก 2 ท่านชื่อ Marul และ Maurina เขาเล่าว่า เป็นบล็อกเกอร์มานานหลายปีแล้ว เพราะการอ่านบล็อกเป็นที่นิยมมากในประเทศบรูไน เห็นเป็นประเทศเล็กๆแบบนี้ แต่ก็มีกิจกรรมไลฟ์สไตล์ตามสถานที่ต่างๆอยู่บ่อยๆ เช่น เทศกาลอาหาร สุขภาพ และท่องเที่ยว ซึงกิจกรรมเหล่านี้เจ้าของงานนิยมเชิญบล็อกเกอร์มาร่วมงานเสมอ อย่างโบอิ้ง Dreamliner ของ RB เปิดตัว เขาก็มีการเชิญบล็อกเกอร์มาร่วมงานและขึ้นบินด้วย เขายังเล่าอีกว่า ถ้าเป็นแต่ก่อน ก็นิยมเขียนบล็อกกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่เทรนด์ปัจจุบัน คือการโพสต์ภาพลง Instagram พร้อมคำบรรยายนิดหน่อย ซึ่งคนอ่านจะชอบแบบนี้มากกว่า (ฮิตเหมือนเมืองไทยเรานี่แหละ)

At the dinner, I met Muaz the public relations manager of Royal Brunei Airlines (who is the official sponsor of this trip) as well as Marul and Maurina, two Bruneian bloggers. They have both been bloggers for years. Reading blogs is apparently a very big trend here in Brunei. Despite the small size of the country, the Bruneians still enjoy a variety of activities organized at various venues such as food, health and tourism festivals. Just like Thailand, they prefer to post pictures in Instagram accompanied by a short description.

rb2025

นอกจากคุยเรื่องบล็อก หนิงก็ถือโอกาสชวนคุยเกี่ยวกับประเทศของเขาด้วย ได้ความรู้มากมาย หนิงถามขำๆว่าอยากดื่มเหล้าทำยังไง เขาบอกง่ายมาก ก็แค่ข้ามไปมาเลย์ สิงคโปร์ รวมถึงเรื่องการช็อปปิ้งด้วยนะคะ ที่น่าชื่นชม ผู้คนบ้านเขาไม่เดือดร้อนเรื่องแอลกอฮอล์ค่ะ เพราะเขาเติบโตมาแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องบริโภคส่งผลให้อัตราอาชญากรรมในประเทศน้อยยยยยยมากกกกก !!! Muaz เล่าเรื่องความปลอดภัยแบบสุดขีดให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งไปทำงาน พอเลิกงาน หากุญแจรถเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ตัดสินใจกลับไปหาแถวที่จอดรถเผื่อทำตก ปรากฎว่าเขาลืมดับเครื่อง.. จอดทิ้งไว้ 3 ชั่วโมงกว่า .. ยังอยู่ที่เดิมปกติ ไม่มีใครโฉบไปซิ่ง (แต่หนิงก็แอบสงสัยว่าทำไม๊ ไม่มีใครช่วยดับรถ สงกระสัยน้ำมันถูก อย่าได้แคร์) ถ้าเป็นพี่ไทยนี่ รถหายไปตั้งแต่ 10นาทีแรกแล้วค่ะ

I gained many insightful knowledge from both bloggers about Brunei. For instance as a Muslim country, it is illegal to buy alcohol in Brunei. That being said, alcohol can be purchased in Malaysia and Singapore. But apparently drinking alcohol isn’t a big deal for them as they have been living in a dry Islamic state where alcohol is banned. This means that their crime rate is very minimal.

 

เผลอแป๊บเดียวนั่งคุยสนุกสนานกันร่วมชั่วโมงกว่า หนิง พี่โบ๊ต และลูกก็ขอตัวไปพักผ่อน แอบเจ็ทแล็กเล็กน้อย เข้าห้องพัก แล้วก็รีบนอน เตรียมลุยวันที่ 2 ในบรูไนต่อค่ะ นี่แหละคะประสบการณ์เพียงแค่ 1 วันในบรูไน ความสนุกยังรออยู่ในตอนที่ 2 กับวันที่ 2 ในบรูไน ติดตามอ่านกันเร็วๆนี้นะคะ ท้ายสุดต้องขอขอบคุณสายการบิน Royal Brunei Airlines ที่พาเรามาเที่ยวที่บรูไนแห่งนี้ด้วย คุณเองก็อาจมีสิทธิ์ไปเที่ยวด้วยเช่นกัน เพียงติดตามอ่านเรื่องราวการท่องเที่ยวครั้งนี้ให้ครบ 5 ตอน ร่วมสนุกตอบคำภาม สายการบิน Royal Brunei Airlines ขอมอบ ตั่วเครื่องบิน พร้อมแพ็กเก็จที่พัก 3 วัน 2 คืน ให้ 2 รางวัลด้วยกัน (รางวัลละ 1 ทีนั่ง) ขอให้โชคดีค่ะ

Stay tuned for my next post as I recount to you my second day in Brunei and also for a chance to win two round trip tickets (BKK-Brunei) from Royal Brunei Airlines and hotel package for 3 days and 2 nights. Good- luck!

 

หนิง
ศรัยฉัตร กุญชรฯ จีระแพทย์

RBA

http://www.flyroyalbrunei.com

RBAinstagram

http://instagram.com/royalbruneiair

ติดตามอ่าน “บันทึกท่องเที่ยวไปกับสายการบิน Royal Brunei Airlines ของหนิง ศรัยฉัตร” ในตอนต่อๆไป เพื่อร่วมลุ้นตอบคำถามชิงรางวัล
ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักไปบรูไน 3 วัน 2 คืนค่ะ
(*หมายเหตุว่า รางวัลนี้ไม่รวมค่าภาษีสนามบิน และเปลี่ยนเป็นเงินสดไม่ได้)

 

Back To Top