สวัสดีค่ะ
หนิงได้รับการติดต่อจากสายการบิน Royal Brunei Airlines เมื่อประมาณต้นปี ว่าสนใจอยากให้หนิงรีวิวเกี่ยวกับ เครื่องบินโบอิ้ง 787 Dreamliner ของ สายการบิน Royal BruneiAirlines หนิงยังแอบคิดว่า จะเป็นไปได้จริงหรือที่เขาจะออกตั๋วให้เรา 3 คน (หนิง พี่โบ๊ต และเบลล่า) ไปเที่ยวฟรี แต่หลังจากคุยทำความรู้จักกัน และปรึกษาแนวทางการเขียนรีวิวแล้ว ปรากฎว่าต้นเดือนเมษายน สายการบิน RB (เป็นตัวย่อของ Royal Brunei Airlines นะคะ) ก็ตัดสินใจพาหนิง และครอบครัวไปสัมผัสกับ Dreamliner โดยให้หนิงเลือกปลายทางที่อยากไป ที่ไหนก็ได้ แน่นอน หนิงเลือกลอนดอน สหราชอาณาจักร เพราะหนิงยังไม่เคยไป แต่พอทาง RB บอกว่า ยินดีมอบตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักไปบรูไน 3 วัน 2 คืนให้ผู้ร่วมสนุกกับบล็อกหนิง หนิงเลยขอเที่ยวประเทศบรูไนด้วยเลยดีกว่า จะได้มาแบ่งปันเรื่องราวความสนุกให้ได้อ่านกัน นั่นแน่ .. ติดตามอ่านให้ดี เพราะคุณอาจจะเป็นผู้โชคดีก็ได้นะคะ (*หมายเหตุว่า รางวัลนี้ไม่รวมค่าภาษีสนามบิน และเปลี่ยนเป็นเงินสดไม่ได้นะคะ)
สำหรับตอนแรกนี้ หนิงขอเจาะเรื่องราวของ Dreamliner กันก่อน 1 ตอนเต็มๆ เพราะมันช่างพิเศษจริงๆ
I have been approached by Royal Brunei Airlines earlier this year to review their Boeing 787 Dreamliner. By April, RB has offered my family and I the opportunity to fly on the Dreamliner to a destination of my choice, absolutely free. I have of course chosen to go to London as I have never been there before. RB has also been kind enough to offer round trip tickets (BKK-Brunei) and free accommodations for 3 days and 2 nights in Brunei for the readers of my blog. Therefore I decided to stop by Brunei so I can personally tell you what a wonderful time I’ve had there. Please stay tuned for my next entries in case you might be the lucky winner. My first post will focus on how special the Dreamliner is.
ก่อนขึ้นเครื่อง เนื่องจากกลัวรถติดหนิงมักเผื่อเวลาเสมอ ช็อปดิวตี้ฟรีเสร็จแล้ว ก็พอมีเวลาไปนั่งเล้าน์ สำรวจซะหน่อยว่าเป็นยังไง อาหารจัดเต็มมาก มีนิตยสารให้อ่านเยอะแยะ แต่สิ่งที่เตะตาครอบครัว คือเก้าอี้นวด! ช้าอดนะครับ มีแค่ 2 ตัว หนิงกะลูกรีบวิ่งไปนั่งก่อน ตอนหลังสงสารคุณสามีเลยยกให้นั่งนวดอีกตัว ดูคุณลูกจะมีความสุขมากสุดค่ะ (ถามว่าทริปนี้ถูกใจอะไรสุด นางบอกเก้าอี้นวด! เอ่อ) หนิงได้นั่งเลาจน์ 2 รอบ 2 แห่ง คือจากเมืองไทยไปบรูไน(ที่สนามบินสุวรรณภูมิ) และอีกครั้งจากบรูไน มุ่งสู่ลอนดอน (ที่สนามบินบรูไน) เนื่องจากต้องเข้าใจนะฮะ สนามบินบรูไนกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง เลยไม่ค่อยมีอะไรกิน มีอะไรช็อป ฉะนั้นไปพักบนเก้าอี้นวดกันดีกว่า
Before boarding, I always arrive early allowing enough time for duty free shopping and relaxing at the lounge, which is filled with a wide array of food and beverages including a huge selection of magazines. But what really caught my attention were the massage chairs. There were only two available so The three of us (including my husband and daughter) had to take turns. We visited the lounge twice, once in Suvarnabhumi Airport and again in Brunei Airport.
และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง เป็นความโชคดี 2 ชั้นของหนิง ที่ทาง RB จัดที่นั่งบิซิเนสคลาสให้เราทั้ง 3 คน โดยการเดินทางจากประเทศไทย สู่บรูไน และขากลับบรูไน-ประเทศไทย นั้นจะเป็นเครื่อง Airbus A320 ค่ะ หนิงขอไม่เจาะลึก เพราะอยากเน้นเครื่อง Dreamliner นะคะ
โบอิ้ง 787 Dreamliner นี้ มีจอชมความบันเทิงส่วนตัวด้วยค่ะ แต่ดูๆแล้วเหมือนมีหนังไม่ค่อยมากเท่าไร กำลังจะแอบเซ็ง แต่ทันใดนั้น! สจ๊วตของเรา ก็ค่อยๆเดินทยอยแจกไอแพด (ให้ยืมนะฮ้า ไม่ได้ให้เก็บกลับบ้าน) ให้ผู้โดยสารเล่นแก้เหงา มีทั้งหนัง รายการ และเกมต่างๆ ก็ลองนึกภาพหนิงกับลูกเล่นเกมอย่างเมามัน จนเครื่องลงแล้วไม่รู้ตัว มุ่งมั่นเล่นกันต่อไป
My family have been very lucky to fly business class (round trip bkk –brunei) in Airbus A320. My daughter and I very much enjoyed our inflight entertainment on Dreamliner Boeing which included our own personal screen and iPad which was packed with lots of games, programs and movies.
ส่วนใครชอบอ่านหนังสือ ก็มีนิตยสารหัวนอกประเภทต่างๆให้เลือกอ่านกันได้ไม่มีเบื่อ มีแอร์และสจ๊วตคอยเดินแจกให้ยืมอ่านตลอดเวลาค่ะ
One can also choose from a wide selection of magazines which was constantly handed to us by the stewardess.
ลืมบอกไปว่า RB ไม่เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์นะคะ เพราะผิดหลักศาสนาอิสลาม สำหรับหนิงและสามีไม่เดือดร้อน เพราะไม่ได้ติดอะไร แต่เขาก็ไม่ว่าถ้าคุณจะพกมาดื่มเอง (แต่หนิงแนะนำ ดื่มก่อนขึ้นเครื่องดีที่สุด ) ส่วนการนำเข้าประเทศนั้นทำได้ แต่ในปริมาณจำกัดและห้ามดื่มในที่สาธารณะค่ะ เพราะความที่ไม่เสิร์ฟแอลกอฮอลล์ โอ้ววว เมนูเครื่องดื่มอื่นๆเยอะมาก หนิงกะลูกแทบจะดื่มทุกเมนูค่ะ ส่วนอาหารก็รสชาติอร่อยทุกมื้อ ใช้ได้!
Since it is against Islamic religion to drink alcohol, RB does not serve alcohol on the flight. I suggest that you consume alcohol before boarding. You can also purchase alcohol but in a limited amount. On the other hand, there were a wide selection of beverages to choose from Menu.
หนิงมีโอกาสได้สัมผัส Dreamliner ก็ตอนบินจากบรูไน ทรานสิตดูไบ และมุ่งสู่กรุงลอนดอน และแน่นอนตอนขากลับเช่นกันค่ะ ตื่นเต้นมาก เพราะทางผู้บริหารRB ในประเทศไทย ได้เล่าความพิเศษของโบอิ้งนี้ไว้เยอะมาก จนหนิงแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้สัมผัส สิ่งแรกที่ชอบดู คือ เครื่องแบบของแอร์และสจ๊วต เชื่อไหมว่า เขาเพิ่งเปลี่ยนเครื่องแบบจาก สีแดงเลือดนก มาเป็นแบบใหม่ สีที่อ่อนลงและออกแบบให้ทันสมัย หรูหรามากขึ้นต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาพอดี หนิงก็เลยได้เห็นชุดใหม่ แถมขอแชะภาพเป็นที่ระลึกกันด้วยค่ะ
I have had the chance to experience Dreamliner during my transit in Brunei, flying from Dubai to London and back. It was a very exciting experience for me as I have been impressed by what RB executives told me about Boeing’s special features prior to flying. I also like the stewardess’ new uniform which has a more elegant and trendy look.
ต่อจากนั้นคือการสำรวจที่นั่ง หนิงเคยนั่งบิซิเนสคลาสสายการบินอื่นก็ต้องยอมรับว่า ที่นั่งของ Dreamliner กว้างขึ้น เขาบอกเลยว่าที่นั่งกว้าง 22 นิ้ว (กว้างไม่กว้างก็คิดดู พอลูกเริ่มเคลิ้ม มีงอแงอยากนอนกอดแม่ เอ่อ ..ก็เบียดกันไปนะ แต่ก็นอนได้ 2 ร่างในที่เดียว อาจจะพลิกตัวลำบาก สุดท้ายรอลูกหลับ หนิงก็อุ้มลูกไปนอนที่ตัวเอง) สามารถปรับนอนได้ 180 องศาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเทียบกับที่ผลิตภัณท์ใกล้เคียง ที่นอน RB มีพื้นที่นอนมากกว่า 11% นอนดูหนังเสมือนนอนบนเตียงที่บ้านกันเลยทีเดียว แถมมีระบบนวดหลังอีก ยิ่งกรี๊ดกร๊าดแม่ลูก เพราะติดใจการนวดกับเก้าอี้นวดในเล้าน์จของ RB มาแล้ว
From my past experiences flying business, I must admit that the Dreamliners seat is very spacious (22 inches wide) and big enough for my daughter and I to sit together in one seat.
มีช่องเอนกประสงค์ต่างๆ ทั้งสามารถวางขวดน้ำใกล้ตัว ที่เก็บรองเท้า ช่องใส่ของต่างๆ ที่ชาร์จแบต เป็นต้น ชั้นบิซิเนสแน่นอนว่าต้องมีกระเป๋าเอนกประสงค์แจกทุกที่นั่ง ก็มีถุงเท้า รองเท้าแตะใส่บนเครื่อง ที่ปิดตา แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และที่อุดหูเผื่อพ่อโบ๊ตกรน (ฮา)
There are many multifunctional storage spaces for you i.e. to keep your shoes and put your glasses. And of course we were given the multipurpose bag with the usual amenities.
และที่อยากเห็นที่สุดคือ หน้าต่างค่ะ เพราะหนิงทราบมาว่า หน้าต่างของ Dreamliner เรียกว่า Smarter Window ไม่มีบานเปิดปิด เพราะมีการปรับแสงสีหน้าต่างอัตโนมัติตามแสงด้านนอก มีการปรับแสงลงเมื่อเข้าช่วงกลางคืนให้เป็นสีม่วง น้ำเงิน ฟ้า บางครั้งตื่นขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะรีบลืมตาดูโทนสีสวยๆบนเครื่องบินค่ะ สวยจริงๆ ค่ะ นอกจากนี้ Dreamliner ยังสามารถปรับความดันบนเครื่องอัตโนมัติ อาการหูอื้อน้อยลง ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากสำหรับผู้โดยสารเด็กๆ เบลล่าไม่มีบ่น และหนิงแทบจำไม่ได้เลยว่า หนิงหูอื้อบ้างหรือเปล่า เขาเคลมว่า เครื่องนี้เสียงเบา หลับสบาย ซึ่งก็จริง นอนดูหนังนี่ บางทีก็มีลืมตัวว่าอยู่บนเครื่องบิน และที่ขอยกย่องคือ เป็นเครื่อง Eco-Friendly ประหยัดน้ำมัน รักษาสิ่งแวดล้อมค่ะ
I have been wanting to see Dreamliner’s smarter window which has no window shield. The window pane changes color automatically according to the outdoor lighting. The cabin pressure is also automatically adjusted. I experienced the smoothest flight and most importantly I would like to praise Dreamliner for it’s eco-friendliness.
ส่วนความบันเทิงอัดเต็ม หนังกว่า 50 เรื่อง ไหนจะรายการ ซีรี่ส์ การ์ตูนเด็ก เกม และอื่นๆ อยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ก็มีนิตยสาร Inflight Entertainment Guide บอกรายชื่อหนังและรายการต่างๆที่มีให้ชม อีก 1 เล่มเป็นข่าวสารสายการบิน และบทความน่ารู้เกี่ยวกับท่องเที่ยงตามประเทศต่างๆ ซึ่งเล่มล่าสุดนี้น่าสนใจมากเพราะมีเรื่องราวขนบธรรมเนียมการแต่งงานตามประเพณีบรูไน อ่านแล้วก็เพลินดีค่ะ
The flight was packed with great entertainment, over 50 movies, not to mention countless of series, cartoons games etc. There were inflight entertainment guide and the airline’s magazine which I enjoyed most as I had a good reading of Brunei-Malay’s wedding splendour which was very interesting indeed.
ก่อนเครื่องเทคออฟ เหล่าแอร์ สจ๊วด ก็สอนวิธีการช่วยเหลือตัวเองในยามฉุกเฉิน หลายคนชอบเมินช่วงนี้ อยากเตือนว่า ไม่เจอไม่รู้ค่ะ หนิงเคยนั่งเครื่องบินไปขอนแก่น เจอหลุมอากาศช่วงพายุ คุณพระ! นั่งสวดมนต์ คิดแล้วว่าแย่แน่ๆ เตรียมหยิบเสื้อชูชีพพร้อม เตชะบุญรอดมาได้ ยังมีภาวะ Flying Fright อยู่ถึงทุกวันนี้ ฉะนั้นขอให้ดูและจำเสมอ อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะหลายคนรอดชีวิตมาได้เพราะความไม่ประมาทนี่แหละค่ะ
Before take off the air stewardess gave us a thorough explanation of the safety measures which I believe to be of great importance. One should pay more attention to it as can it actually save your life.
เครื่องเทคออฟ สัญญาณรัดเข็มขัดหายไป ก็ถึงเวลาสำรวจห้องน้ำค่ะ แหม เข้าไปแว๊บแรกแสนสดชื่น มีดอกไม้สดประดับประดาสวยงาม ไลท์ติ้งซอฟท์ๆ
I was instantly refreshed by the flower decor and soft lighting in the toilet.
พื้นที่ห้องน้ำกว้างขวาง ก็อกน้ำสามารถปรับอุณหภูมิน้ำได้
The toilet space is very large and the faucet can control the water temperature.
มองไปด้านล่าง ว้าว! นึกว่าห้องน้ำที่ญี่ปุ่น !! มีระบบฉีดน้ำทำความสะอาดหลังปลดทุกข์ทั้งหลายแหล่ด้วยฮ้า เริ่ด!!
At first glance, the toilet seats reminded me of the ones in Japan with all the multiple functions which was very convenient and impressive!
ไม่พอค่ะ!! ชักโครกเป็นระบบอัตโนมัติ เพียงแค่ให้มือผ่านเซ็นเซอร์ มันจะชักโครก ปิดฝาให้เรียบร้อย (เอ่อ ซึ่งหมายความว่า ลุกขึ้นให้เรียบร้อยค่อยใช้เซ็นเซอร์นะจ้ะ)
The flush is automatic just hand over the sensor.
มีอีกอย่างที่หนิงชอบสุดคือ มองไปข้างๆโถนั่ง มีที่นั่งพับอีกตัวไว้นั่งอีก มีสีสัญลักษณ์ให้เห็นว่า เพื่อการใส่รองเท้า (ก็แอบสงสัยว่าใครจะมาใส่รองเท้าในห้องน้ำ คิดแบบรอบคอบคือ เชือกรองเท้าอาจจะหลุดระหว่างทำธุระอ่ะนะ ก็นั่งสวยๆผูกเก๋ๆ พื้นที่มันเหลือจะทำไม สำหรับหนิงแล้ว ตีความอีกแบบ มันใช่เลย ระหว่างลูกถ่ายทุกข์ แม่นั่งเล่านิทานอยู่ข้างๆ ไม่ต้องทนยืนให้เมื่อย เพื่อให้เห็นภาพ เบลล่าถ่ายทุกข์พอดี ฮิฮิ แม่ขอเซลฟี่ซะหน่อยนะคะ แต่เรทไม่เอ๊กซ์รับรอง เซ็นเซอร์แล้ว แถมอัดวีดีโอให้ทุกท่านประจักษ์ด้วยสายตาเสมือนขึ้นมาอยู่ Dreamliner กับหนิงจริงๆค่ะ
What I loved most was the extra seating provided in the toilet. So you can just imagine how spacious it is in there. I find it very practical as I can unfold the seat an sit next to my daughter when she goes to the toilet.
ที่นี้มาถึงเรื่องอาหาร (แหม เข้าใจร้อยเรื่องต่อนะ) คืออ่านเมนูมีเหนื่อย มีหลากหลายคอร์ส หลากเมนู สั่งได้ไม่อั้น กินได้เต็มที่ไม่มีหยุด ตราบใดที่ท้องคุณไหว หนิงสั่งแหลก แอบอายคนข้างๆ คงคิดว่า มันจะกินอะไรนักหนา ก็แหมต้องชิมอย่างละนิด ถ่ายรูปอย่างละหน่อย เพื่อบอกต่อกัน ขอบอกว่าอาหารอร่อยทุกมื้อ จัดได้น่าทานพิถีพิถัน หนิงชอบขวดเกลือ พริกไทยแสนจุ๋มจิ๋ม และขวดน้ำมันมะกอกจิ๋วสำหรับเมนูสลัด เพิ่มอรรถรสการทานได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ เบลล่าเอ็นจอยชีสมาก ทานแล้วทานอีก พร้อมกับโกโก้เย็นที่ทานได้ทุกมื้อ ส่วนหนิงขอยกนิ้วให้น้ำปั่นผลไม้เพื่อสุขภาพ อร่อยจริงๆค่ะ
Let’s move on to the menu which is very extensive and varied. I enjoyed every meal especially the cute salt and pepper shake and the tiny olive oil bottle. My daughter couldn’t get enough of the cheese and cold cocoa drink whilst I extremely enjoyed the fruit shake.
ไม่แปลกใจ เวลาโพสต์รูป IG ทาง RB ขอให้ hashtag #RBBETTERFLY ก็มันสบายกว่าจริงๆนะ อิ่มหนำสำราญกันเต็มที่ อยากรู้คุณสมบัติพิเศษอื่นๆ หนิงถ่ายภาพจากนิตยสารบนเครื่องมาให้ดู ว่ามีอะไรบ้าง แต่ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ ต้องพิสูจน์กันเอง มีเส้นทางที่บินมากมายลองดูภาพกันคะ และถึงแม้จะไม่ได้นั่ง Eco แต่ก็เอาข้อมูลมาให้อ่านว่า น่าสนอย่างไร ที่แน่ๆที่นั่งกว้างค่ะ
It’s not to my surprise why RB told me to hashtag #RBBETTERFLY because true to their testament, it is a BETTERFLY. I took some pictures from the inflight magazine just to show you how special the Dreamliner is. But seeing is believing so I suggest you experience it for yourself. They offer many flying destinations. Although I didn’t sit in economy class, I can honestly say the passenger seat is very spacious.
ส่วนใครชอบความเร็ว หากนั่งบินเนส พอไปถึงลอนดอนปั๊บ แอร์จะทำการแจกใบ Fast Track ต่อคน เพื่อนำไปใช้ที่สนามบินค่ะ สามารถนำไปยื่นเข้าแถว Fast Track ผ่านตรวจคนเข้าเมืองได้ทันที ไม่ต้องต่อคิวยาว
อีกหนึ่งเรื่องที่หนิงสังเกตก็คือ มีนักเรียนไทยบินกันเยอะ เพราะนอกจากเส้นทางไป ลอนดอนแล้ว มีเส้นทางไป เมลเบิร์น ออสเตรเลีย ซึ่งทั้ง 2 ที่เป็นที่นิยมของเหล่าคนไทย ที่บิน RB ก็เพราะเขาให้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่มพิเศษสำหรับนักเรียนค่ะ ดังนั้นนี่เป็นโอกาสอันดีของพ่อแม่ที่จะไปกลับพร้อมลูกจะได้ช็อปมากขึ้น ฮา
อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับว่า ทุกสิ่ง มีข้อดี ย่อมมีข้อเสีย แม้จะที่นั่งสบาย เทคโนโลยี่เริ่ด ความบันเทิงอัดเต็ม บิซิเนสราคาสมเหตุสมผล แต่ขอให้เตรียมใจเรื่องการจอดทรานซิทนะคะ เพราะหากไปลอนดอน นั้นหมายความว่า ผู้โดยสารจะต้อง ทรานสิทรอบที่ 1 ที่บรูไน และทรานสิทรอบที่ 2 ที่ดูไบ ถึงค่อยถึงจุดหมายลอนดอน หนิงกะเวลาประมาณนี้ จากลอนดอนสู่ดูไบ ประมาณ 7 ชั่วโมง ดูไบสู่บรูไนอีก 7 ชั่วโมง และ บรูไนสู่เมืองไทย 2 ชั่วโมงกว่า เบ็ดเสร็จ ประมาณ 17 ชั่วโมง ซึ่ง .. ว่าไปก็ไม่ค่อยต่างจากสายการบินที่มีทรานสิทรอบเดียว คิดซะว่าพักเท้าด้วยการเดินลงเดินขึ้น และช่วงเวลาทรานสิทสั้นมาก ลงดูไบกะช็อปที่สนามบินซะหน่อย (เพราะไปมาปีที่แล้ว) เอ่อ ไม่ทันครับ ต้องขึ้นเครื่องเลยค่ะ
Another thing that I have noticed is that there were alot of passengers who are Thai students because apart from London, RB also flies to Melbourne, Australia. Students choose RB to fly to these top 2 destinations because of the extra weight allowance for luggages.
But with all the pros comes the cons. The only downside is that you will have to make 2 transits, one I Brunei and another one in Dubai. It took a total of approximately 17 hours from London to Thailand (7 hrs from London to Dubai, 7 hrs fom Dubai-Brunei and another 2 from Brunei to Thailand). Come to think of it, it is not that much different than other flights with just one transit. Consider the lay over time as an opportunity for you to ease yourself from all the flying, relax and go shopping whilst you are at the airport.
ลืมเล่าว่า ช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน คงมีการแจ้งพนักวานบนเครื่องว่ามี Blogger ร่วมเดินทางมาด้วย สังเกตุจากขาไปลอนดอน แอร์คนนึงถึงกับเดินมาทักทาย อยากรู้ว่าเขียนอะไรที่ไหนยังไง คงเพราะที่บรูไน มีความนิยมในบล็อกเกอร์กันมาก (เดี๋ยวเล่าให้ฟังตอน 2 ว่าหนิงมีโอกาสเจอบล็อกเกอร์ชาวบรูไนด้วย) ส่วนขากลับมาเมืองไทย ก็มีสจ๊วตอีกท่านเดินมาทักทาย อยากรู้ว่าเขียนที่ไหนยังไง พร้อมแนะนำตัวว่า เขารักการลงรูป Instagram มาก เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง #brunika เพื่อโหลดภาพจากสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ที่เขาได้ไปมา น่าภูมิใจเหลือเกิน มีประเทศไทยด้วย เขาชมไม่หยุดว่าเกาะพีพีของเราสวยมาก และใน IG account ของเขา @mriguana ก็มีภาพสวยๆของประเทศบรูไนให้ได้ชม ใครสนใจรีบตามไป follow ค่ะ อยากรู้ว่าคนไหน รีบย้อนไปดูภาพสจ๊วดด้านบน คือคนที่ยืนติดแอร์โฮสเตรสค่ะ
The inflight crew was told that a blogger will be on board the flight therefore during my flight to London, an air hostess had a little chit chat with me asking what I write as a blogger. Apparently there’s this big hype about bloggers in Brunei. I had the chance to meet with two Brunei bloggers on this trip. I also net one of the inflight crew who is the founder of #brunika that posts wonderful destination images via instagram, you can as well check out Brunei’s and Thailand’s (as he also a big fan of Thailand) wonderful views in instagram account @mriguana.
และนี่ก็คือความพิเศษของ Dreamliner สายการบิน Royal Brunei Airlines ที่หนิงได้สัมผัสมา สุดแสนประทับใจ มีความสุข (แอบฝันว่า ปีหน้า เขาอาจพาไปเมลเบิร์น ฮา!) อย่าลืมนะคะ คุณก็มีสิทธิลุ้นรับตั๋วเครื่องบิน RB พร้อมแพ็คเกจที่พัก 3 วัน 2 คืนไปบรูไน บอกเลยว่า เราแจก 2 รางวัล รางวัลละ 1 ที่ เพียงแค่อ่านบล็อกหนิงให้ครบทั้ง 5 ตอน รอการร่วมสนุกที่จะบอกในตอนที่ 5 นะคะ ขอให้โชคดีค่ะ
I hope you’ve enjoyed reading this post about the Dreamliner from Royal Brunei Airlines as much as I have enjoyed the amazing experience of flying in this most impressive air carrier. Just a little wishful thinking, but I do hope that I will have the privilege of flying to Melbourne next year. Don’t forget, I have a free holiday package from RB (including free round trip tickets to Brunei with free hotel accommodation for 3 days and 2 nights) up for grabs. Have a blast reading all five posts and good luck!
หนิง
ศรัยฉัตร กุญชรฯ จีระแพทย์
http://instagram.com/royalbruneiair
ติดตามอ่าน “บันทึกท่องเที่ยวไปกับสายการบิน Royal Brunei Airlines ของหนิง ศรัยฉัตร” ในตอนต่อๆไป เพื่อร่วมลุ้นตอบคำถามชิงรางวัล
ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักไปบรูไน 3 วัน 2 คืนค่ะ
(*หมายเหตุว่า รางวัลนี้ไม่รวมค่าภาษีสนามบิน และเปลี่ยนเป็นเงินสดไม่ได้)
