สวัสดีค่ะ
หนิงพยายามคิดว่ามีเรื่องไหนบ้าง ที่หนิงมีประสบการณ์แต่ยังไม่เคยแชร์ให้คนอ่านบล็อกเลย คิดไปคิดมา … ก็ได้คำตอบว่า “เรื่องพูด” นี่ไงละ แม้จะเคยเขียนรีวิวพ็อคเก็ตบุ๊ค พูดเป็นเก่งมั่นสไตล์ หนิง ศรัยฉัตร แต่ก็แค่เป็นการรีวิวเหตุผลที่ควรมีหนังสือเล่มนี้เท่านั้นเอง ฉะนั้น ครั้งนี้ หนิงถือโอกาสแนะนำ 10 เทคนิคดีๆ ของการ ‘พูด’ สู่ความสำเร็จ มาแชร์ให้คนที่อยากพูดเก่ง อยากพูดเป็น อยากประสบความสำเร็จจากการพูด อยากเป็นพิธีกร เป็นต้น ทั้งหมดจากประสบการณ์ทำพิธีกรกว่า 16 ปีของหนิงล้วนๆ และบอกเลยว่า ปกติของดีๆเขาไม่แชร์กันนะคะ แต่หนิงตั้งใจละว่า อยากจะแบ่งปันความรู้ให้ผู้อ่านจริงๆ
บางคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ หนิงเล่าอะไรให้ฟังละกัน .. รู้ไหมว่า ปัจจุบัน อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน มีรายได้จากอะไร? คำตอบคือ “การพูด” หรือ Public Speech รับจ้างพูดตามที่ต่างๆนั่นเอง ว่ากันว่า เฉพาะเดือน กุมภาพันธ์ปี 2015 บิล คลินตัน มีรายได้จากการพูด 225,000 เหรียญสหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย ตอนนี้ก็ 7,875,000 บาท) นี่แค่เดือนเดียวนะคะ ภรรยาของเขาตามมาติดๆ แหล่งข่าวรายงานว่า ฮิลลารี คลินตัน รับจ้างพูดไป 51 งานในปี 2014 และ 3 เดือนแรกของปี 2015 ก็ฟาดไปเหนาะๆ มากกว่า 11 ล้านเหรียญ !! คูณไปสิคะ ก็แค่ 385 ล้านบาท ! ฉะนั้นอย่าแปลกใจ ถ้าประธานาธิบดีบารัค โอบามา อยากจะหมดวาระเร็วๆ เพราะไปรับจ้างพูด รวยกว่าการเป็นประธานาธิบดีหลายเท่า
ไม่ต้องมีตัวอย่างไกลระดับอินเตอร์ก็ได้ค่ะ หนิงว่า … นักพูดให้กำลังใจชื่อดังในประเทศไทยหลายๆคน .. ฟันค่ารับเชิญพูดกันไปในแต่ละครั้งกันไปแบบไม่ธรรมดา ขอแค่มีประสบการณ์ มีเรื่องราวชีวิตที่นำมาเป็นบทเรียนได้ ผสานวาทศิลป์ดีๆ เชื่อเถอะ .. รวยกว่านักการเมืองหลายคน (อุ๊บส์) และยังรวมถึงพิธีกรอีกหลากหลายคนที่มีรายได้มากกว่าดาราซุปตาร์ด้วยซ้ำ ฉะนั้น คุณจะขายของ ทำงานออฟฟิศ ขายประกัน เป็นครู เป็นหมอ เป็นแม่บ้าน ดีเจ ขับแท็กซี่ สอนโยคะ … ชีวิตคุณเปลี่ยนได้ .. จากการ “พูด” อย่ารอช้า มาดู 10 เทคนิค นี้กันเลย
10 เทคนิคดีๆของการ “พูด” สู่ความสำเร็จ โดย หนิง ศรัยฉัตร
- ชอบพูด .. ถามตัวเองก่อนว่า ชอบพูดไหม ชอบคุยกับผู้คนหรือเปล่า ถ้าไม่ .. อย่าล้มเลิก ของแบบนี้เราเรียนรู้ให้ชอบได้ ถ้าอยู่ในที่ประชุม ..คงถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องยกมือแสดงความคิดเห็นค่ะ เพราะถ้าคุณไม่ชอบพูด .. และไม่คิดจะแก้ไข ก็ไม่ต้องอ่านต่อเลย เพราะมันคืออุปสรรคแรกของการพูด ส่วนใครชอบ มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ชอบต่อไป แล้วค่อยๆฝึกทักษะและเทคนิคในการพูดเสริมเข้าไป
. - มีความมั่นใจ .. สำคัญนะคะ ถ้าเรามีความมั่นใจ พูดได้อย่างหนักแน่น คนฟังเชื่อถือ หน้าตามีพลัง … พูดเรื่องโกหกคนก็เชื่อค่ะ … ในขณะที่บางคนพูดเรื่องจริง .. แต่ไม่มีความมั่นใจใดๆซะเลย ไม่กล้าสบตา เสียงแผ่วเบา พูดผิดๆถูกๆ .. ไม่มีใครเชื่อ แถมไม่มีใครอยากฟังอีกด้วย
. - การแต่งกายและบุคลิกภาพต้องดูดี .. สิ่งเหล่านี้ จะเสริมการพูดของเราให้น่าสนใจ และน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น คุณคงไม่ซื้อประกันจากคนขายที่ใส่เอี๊ยม แต่งตัวแอ๊บแบ๊ว ลากแตะมา ถูกไหมคะ … ฉะนั้นต้องแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะ ในขณะที่หน้าตาต้องยิ้มแย้ม เป็นมิตร ไม่ใช่มู่ตู้ พูดขึงขัง คนจะกลัวเอา เหมือนประโยคฝรั่งที่ว่า “He who can not smile, ought not to keep a shop” ใครที่ไม่ชอบยิ้ม ก็ไม่ควรจะมีร้านค้าเป็นของตัวเอง จริงไหมคะ เจอคนขายหน้าบูด เราก็เบ้สิ
. - พูดด้วยความจริงใจ .. ไม่ว่าเราจะพูดอะไร จะเล่าเรื่อง จะขายของ จะถามสารทุกข์สุขดิบ .. ขอแค่จริงใจ ในที่นี้ พูดจากใจ จากความซื่อสัตย์ ร้อยทั้งร้อยนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ ก็เพราะเขาจริงใจต่อลูกค้าของเขาค่ะ หลอกลวงเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำลายชื่อเสียงของเราทั้งหมดที่สร้างมาให้ป่นปี้ เช่น จะขายประกัน อย่าสักแต่จะขาย ให้จัดกรมธรรม์ในแบบที่เหมาะกับลูกค้าจริงๆ จะจ่ายน้อยก็ไม่เป็นไร เพราะวันหน้าที่ลูกค้าอยากจะเพิ่ม เขาจะนึกถึงคุณ
. - พูดดีแล้ว ต้องเป็นนักฟังที่ดีด้วย ไม่ใช่ว่าพูดเก่ง ก็เอาแต่พูด พูด พูด จนคนรอบข้างระอา ไม่อยากจะฟัง .. เราจะต้องฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง การฟังคนอื่นจะเป็นการสอนให้เราเป็นนักพูดที่ดี และ มีความรู้มากขึ้น เพราะเราจะรู้ว่า เราควรพูดสิ่งไหน ควรพูดสิ่งที่จำเป็นและเกิดประโยชน์เป็นต้น
. - มีสติและสมาธิ การพูดช่วงแรกๆ ย่อมสร้างความตื่นเต้น ที่ฝรั่งเรียกกันว่า BUCK FEVER คือภาวะตื่นเต้นของนายพรานมือใหม่เมื่อเจอสัตว์ที่จะล่านั่นเอง สำหรับนักพูด คือมือสั่น ปากสั่น พูดผิดพูดถูก จำในสิ่งที่พูดไม่ได้ หัวใจเต้นเร็วและรัว .. แต่หนิงจะบอกอะไรให้อย่างค่ะ .. ไม่มีใครจะตื่นเต้นไปตลอด 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ของการพูดหรอก ผ่านจุดนั้นไปเดี๋ยวมันก็หาย และถ้าเรามั่นใจว่า เราเตรียมสิ่งที่จะพูดไว้อย่างดี มีความรู้อัดเต็มสมอง ก็ไม่ต้องไปกลัว ตั้งสติดีๆ และมีสมาธิกับสิ่งที่จะต้องพูดให้ได้ค่ะ
. - มีอารมณ์ขัน .. Everytime you find some humour in a difficult situation,you win เมื่อใดที่คับขัน จงมีอารมณ์ขัน มันจะช่วยให้คุณชนะ คือสิ่งที่นักพูดฝรั่งเขาเชื่อกัน พยายามหามุขตลก เรื่องขำมาแทรกการพูดบ้าง แต่ต้องเข้ากับเนื้อหาที่เราจะพูดด้วยนะคะ เมื่อเรารู้ว่าสถานการณ์เริ่มน่าเบื่อ .. เข้าเรื่องตลก สนุกสนานเลย เพราะนอกจากจะช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น คนพูดก็ผ่อนคลาย คนฟังก็จะเริ่มตั้งใจฟังมากขึ้น
. - จำใจความสำคัญของสิ่งที่จะพูด ไม่ใช่เนื้อหาทั้งหมด ตกม้าตายกันมาเยอะแล้วนะคะ เพราะมัวแต่จะต้องไปท่องจำทุกคำ ทุกประโยคที่จะพูด ..สุดท้ายจำอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่เราต้องจำ คือใจความสำคัญมากกว่าค่ะ เช่น เราแบ่งหัวข้อพูด เป็น 4 หัวข้อ จำ 4 หัวข้อในขึ้นใจ แล้วเราก็จะสามารถพูดเนื้อหาของแต่ละหัวข้อได้อย่างดี เมื่อพูดจากใจ จากสมอง ก็จะดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้คนยิ่งเชื่อถือในสิ่งที่เราพูด
. - อย่าพูดด้วยน้ำเสียงโทนเดิมตลอดของการพูด เคยเจอพิธีกรที่เรียกว่า “โมโนโทน” ไหมคะ จะตื่นเต้น จะขายของ จะสงสาร จะร้องไห้ จะตกใจ ก็มีอยู่เสียงเดียว น่าเบื่อที่สุด .. นักพูดที่ดี มันต้องมีการแสดงผสมผสาน พูดให้น่าฟัง มีเสียงสูงเสียงต่ำ ออกแอคชั่นท่าทาง ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น น้ำเสียงดังขึ้น พูดเร็วขึ้น .. จะสงสาร ก็หรี่เสียงหลง สีหน้าบ่งบอกความเศร้า ไม่ใช่ยิ้มสวยตลอด เป็นต้น เมื่อทำได้แบบนี้ การพูดหรือการเล่าเรื่องของเรา .. ก็จะน่าสนใจ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
. - เริ่มต้นการพูด ด้วยการเล่าเรื่อง คงจะน่าเบื่อนะคะ ถ้าเราจะเริ่มพูดให้คนฟังด้วยการเข้าเป้าพุ่งสู่ประเด็นทันที ..นาทีแรกๆของการจับใจคนฟัง ต้องมีเทคนิคค่ะ นั่นก็คือการ ‘เล่าเรื่อง’ ยกตัวอย่าง เวลาหนิงจะสอนพูด … หนิงจะเล่าเรื่อง การพูดอันแสนพินาศของหนิงในอดีตให้ฟังก่อน .. คนฟังจะสนใจ อยากรู้ และพบว่า ไม่มีใครเกิดมาแล้วพูดเก่งเลย เฉกเช่นเดียวกับคุณ คุณจะพูดอะไรก็แล้วแต่ .. ลองเริ่มจากการเล่าเรื่อง จากเรื่องจริง หรือจะสร้างขึ้นมาก็ได้ แล้วก้จูงไปสู่เนื้อหาที่จะพูด รับรองมีแต่คนสนใจ ซึ่งเทคนิคนี้ ก็ยังเป็นเทคนิคที่นักพูดระดับโลกอย่าง สตีฟ จ็อบส์ ก็ใช้ค่ะ และถ้าสังเกตดีๆ หนิงก็ใช้เทคนิคเล่าเรื่องของการเขียนในครั้งนี้ด้วย ย้อนไปอ่านดูอีกที ตอนต้น
ทั้งหมดนี้คือ 10 เทคนิคดีๆของการ ‘พูด’ สู่ความสำเร็จ จากหนิงค่ะ หวังว่าจะได้รับประโยชน์กันนะคะ และอย่าลืมว่า … การพูดที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยความมุ่งมานะ ความตั้งใจ และการฝึกฝนอย่างสม่ำเมออีกด้วย
Practice makes Perfect ไงคะ
ส่วนใครสนใจอยากเรียนการพูดกับหนิง รอติดตามข่าวสารได้ในช่องทางข้างนี้ได้หมดนะคะ
BLOG | http://www.saraichatt.com
Instagram @ningsaraika
Facebook Page | Ning Saraichatt
หนิง
ศรัยฉัตร กุญชรฯ จีระแพทย์
