แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน


ถ้าใครติดตาม IG หรือ Facebook หนิง จะเห็นว่าเบลล่าใส่แว่น เนื่องจากสายตาสั้นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ (ปัจจุบันอายุ 12) หนึ่งในเหตุผลก็คือกรรมพันธุ์ค่ะ ทั้งพ่อและแม่สายตาสั้นมาก ผสมกับการชอบอ่านหนังสือของเบลล่า และยังไม่รวมกิจกรรมทางหน้าจอ และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป แน่นอนว่าอะไรก็ตามที่ “เพื่อลูก” มนุษย์แม่อย่างหนิงก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวของกับเรื่องของสุขภาพค่ะ สามีของหนิงก็ตัดแว่นบ่อยและก็พูดให้หนิงได้ยินเข้าหูตลอดว่า ถ้าเลนส์ต้องใช้ยีห้อเอสซีลอร์ (Essilor)
แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน
ตอนแรกก็แอบสงสัยว่าทำไม แต่พอได้มาศึกษาดู เลยได้รู้ว่าเอสซีลอร์ แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส เป็นเลนส์ผู้นำระดับโลกทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตามากว่า 150 ปีแล้วค่ะ หนิงได้อ่านบทความว่าถ้าเราเลือกเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพ ไม่เหมาะกับสายตาหรือการใช้งานของตาเรา พูดง่าย ๆ ผิดประเภท ก็อาจจะเกิดอาการปวดหัว มึน ตาล้า ไม่สบายตาได้ พอรู้แบบนี้ จัดให้ลูกไม่พอ จัดให้ตัวเองด้วยเลยค่ะ (ฮา)

เมื่อจะตัดแว่นใหม่ทั้งที หนิงก็ขอเริ่มตั้งแต่ตรวจสายตาเลยค่ะ หนิงกับเบลล่าไปตรวจสายตากันที่ร้าน Vora Visions สยามแสควร์ซอย 3 ซึ่งที่ร้าน Vora Visions นี้ด้านบนจะเป็นในส่วนของสยามจักษุคลีนิค (ใครเดินสยามกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ต้องรู้จักกันดี) ทำให้สบายใจได้ว่าเรามีการตรวจวัดสายตาจากจักษุแพทย์ เครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจวัดสายตาทันสมัยมาก หนิงและลูกโชคดี ได้มีโอกาสตรวจกับคุณหมอเตือนใจ วงศ์วรเศรษฐ์ ที่ไม่ได้แค่ตรวจวัดสายตากันทั่วไป แต่ตรวจลึกไปถึงสุขภาพตาอย่างละเอียด เช่นเรื่องความแห้ง ความขุ่น ต่อมไขมัน ความเป็นไปได้ของต้อหิน เป็นต้น เนื่องจากหนิงใส่คอนแทคเลนส์มานาน ยิ่งต้องดูแลดวงตาเป็นพิเศษ

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

ตาของหนิงค่อนข้างแห้งคุณหมอแนะนำว่า วันที่ไม่ทำงานพักคอนแทคเลนส์ แล้วใส่แต่แว่นบ้างก็ดี ส่วนของลูก ก็สุขภาพตาดี น่าจะเพราะยังเด็กอยู่ แต่คุณหมอก็แนะเช่นเดียวกันว่า ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และหยอดตาเป็นระยะ ๆ (เบลล่าใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากต้องเรียนเต้นทุกวัน เลยใส่เฉพาะช่วงกลางวันค่ะ)

ผลจากการตรวจสายตาของเบลล่า สายตาสั้น 350 ทั้งสองข้าง ส่วนแม่หนิง … สั้นแน่ ๆ แต่ ยาวมาแล้วด้วยจ้า 😉 คุณหมอแนะนำว่า ด้วยอายุของหนิง ควรใส่เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ เอาล่ะสิ ! เคยแต่ได้ยิน ไม่รู้หรอกค่ะว่า มันคืออะไร รู้แต่ว่า พออายุเยอะ ๆ คนมักใส่ (กรี๊ด ยังไม่อยากแก่) แถมบางคนบอกใส่แล้วต้องรู้วิธีการมองด้วย คุณหมอบอกใจเย็น ๆ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดและอธิบายให้หนิงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าแว่นตาโปรเกรสซีฟ คืออะไร

เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ ถือเป็นตัวช่วยที่สมบูรณ์แบบที่สุดและง่ายที่สุด เพราะเป็นการดีไซน์โครงสร้างเลนส์พิเศษที่ช่วยให้เราสามารถมองเห็นชัดเจนได้ทุกระยะการมองในชีวิตประจำวันค่ะ เช่น

• ระยะใกล้ เช่น อ่านหนังสือ ดูมือถือ ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์และงานระยะเอื้อมแขนต่าง ๆ
• ระยะกลาง เช่น การมองระยะรอบ ๆ โต๊ะทำงาน ภายในรถยนต์ขณะขับรถ
• ระยะไกล เช่น การขับรถ การถ่ายภาพ

นอกจากใส่แล้วจะมองเห็นที่ง่ายขึ้น ยังไร้รอยต่อซึ่งประเด็นนี้ สำคัญค่ะ คือช่วยไม่ให้คนอื่นรู้ว่าคุณถึงวัยต้องใช้แว่นตาอ่านหนังสือแล้ว อร๊ายยย อันนี้ล่ะถูกใจค่ะ กลัวคนรู้ว่าแก่ 😉 แถมเดี๋ยวนี้เราก็เลือกกรอบแว่นแฟชั่นทันสมัยมาใส่เป็นแว่นสายตา เปรี้ยวจะตาย

เอ๊า ไม่รอช้าโปรเกรสซีฟ ก็โปรเกรสซีฟ ตอนนี้เริ่มงงตัวเองละ เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ ไหนว่าจะจัดให้ลูก กลายเป็นว่า เริ่มจัดเต็มให้ตัวเอง พอเลือกที่จะทำ โปรเกรสซีฟ หนิงจะต้องทำการวัดสายตาที่มากกว่าแบบทั่วไป มีขั้นตอนที่ละเอียดกว่า มีการมองระยะไกลและระยะใกล้ การกรอกตามองบนมองล่าง เป็นต้น

คุณวอร่า (วรสุตา วงศ์วรเศรษฐ์ ) กรรมการผู้จัดการ วอร่าวีชั่นส์ ลูกสาวของคุณหมอ บอกหนิงว่า เหมือนเราเลือกซื้อเสื้อผ้านะคะ ถ้าอยากได้ชุดที่ตรงตามขนาดรูปร่างของเราเป๊ะ ๆ เราก็ต้อง custom made หรือ ตัดเอา ก็ไม่ต่างจากเลนส์ progressive เราวัด เพื่อให้ได้เลนส์ที่เป็นของเราอย่างแท้จริง แหม … ศรัยแพ้คำว่า customize ซะด้วย .. อะไรที่ทำมาเพื่อเรา ก็ต้องพูดว่า ของมันต้องมีฮะ

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

เราใช้เวลาในการตรวจวัดสายตาไม่นาน หลังจากนั้น ก็มาเลือกกรอบแว่นกันค่ะ คุณหมอบอกว่า นอกจากเราควรจะเลือกกรอบแว่นให้เขากับรูปหน้าแล้ว ตัวกรอบแว่น หรือดีไซน์ของแว่นก็สำคัญ คือ อย่างถ้าหนิงสายตาสั้นมาก ๆ เลนส์จะหนากว่าปกติ ถ้าเลือกกรอบแบบบาง ๆ เปลือย ๆ คนจะรู้ว่าเราสั้นมาก แต่ถ้าเราไม่ซีเรียส ปล่อยผ่านไปค่ะ เลือกเอาแบบใส่แล้วสวย มั่นใจ ก็เลือกไปเถอะค่ะ หนิงกับลูกก็ใจตรงกันค่ะ นอกจากจะเลือกแบรนด์ Bolon เพราะเป็นแฟนคลับแว่นกันแดดอยู่แล้ว แหม .. เลือกกรอบสีออกสว่าง ๆ พิ้งค์โกลด์ คล้าย ๆ กันอีก คงเพราะที่ผ่านมา เราสองคนแม่ลูก มักจะเลือกกรอบดำ หรือ สีเข้ม ๆ แบบใส่อยู่บ้านจริง ๆ มาตลอด ครั้งนี้อยากใส่ออกนอกบ้านบ้าง ก็อยากจะเลือกอะไรที่เป็นแฟชั่นเก๋ ๆ ด้วยค่ะ
สำหรับการเลือกชนิดเลนส์แว่นของหนิงกับลูก ก็ย่อมต้องต่างกันนะคะ เพราะการใช้ตาของเราก็มีความแตกต่าง

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

ของเบลล่า คุณหมอแนะนำว่าให้ใช้ บลู ยูวี แคปเจอร์ (Blue UV Capture)
เพราะมีคุณสมบัติช่วยกรองแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย และรังสียูวี ช่วยปกป้องดวงตาให้ปลอดภัยทุกวัน ด้วยนวัตกรรมที่ผสมผสานโมเลกุลตัวกรองแสง Blue UV Capture ในเนื้อเลนส์ มีประสิทธิภาพกรองแสงแบบซึมซับแสงสีน้ำเงินอมม่วง ซึ่งเป็นช่วงแสงที่เป็นอันตราย โดยที่ยังคงให้แสงสีน้ำเงินอมเขียวที่มีประโยชน์ผ่านเข้าสู่ดวงตาได้

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

ส่วนสาเหตุที่ต้องปกป้องดวงตาจากแสงและรังสีที่มีอันตรายก็เพราะว่ามันสามารถทำให้เกิดอันตรายต่อจอประสาทตาจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น ซึ่งแสงชนิดนี้มาจากแสงอาทิตย์รอบตัวเรานี่แหละ และหลอดไฟ LED ซึ่งเป็นจุดกำเนิดแสงของหน้าจอดิจิตอลต่าง ๆ
หนิงรู้มาว่าปัจจุบันพฤติกรรมการใช้หน้าจอของเราโดยเฉลี่ยสูงถึง 7 ชั่วโมง 24 นาที และการใช้หลอด LED ก็มากขึ้นตาม นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเด็ก ๆ ถึงควรใช้เลนส์แบบนี้ค่ะ

ส่วนของหนิง เลือกใช้เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ Varilux Physio
เป็นเลนส์ที่ผ่านการปรับแต่งพิเศษเฉพาะกับค่าสายตาของผู้สวมใส่ การปรับตัวได้ง่าย หมดปัญหาภาพไม่คมชัด ตั้งแต่ระยะใกล้ กลาง จนถึงไกล
ด้วยเทคโนโลยี W.A.V.E. 2.0 ที่ช่วยคำนวณขนาดรูม่านตาและปริมาณแสงที่ผ่านรูม่านตา เลยช่วยลดภาพปัญหาบิดเบือน คมชัดได้ทั้งกลางวันและกลางคืนและยังมี Binocular Booster ช่วยเปลี่ยนระยะโฟกัสการมองอย่างรวดเร็วและนุ่มนวลค่ะ

เอาล่ะ ตรวจวัดแล้ว เลือกแว่นแล้ว เลือกเลนส์แล้ว ใช้เวลารอ 12 วัน ก็ได้รับการแจ้งว่ามารับแว่นได้เลย เนื่องจากเบลล่าติดเรียนหนังสือ ทางร้านบอกว่า หนิงรับแทนได้ แต่ถ้าเบลล่าใส่แล้วมึนหัว ให้กลับมาให้ดูได้ แต่เคสหนิงเมื่อเป็นโปรเกรสซีฟขอให้มารับเอง จะได้ลองใส่ และรับทราบวิธีการมองที่ถูกต้อง

วันที่ไปรับนี่ ตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเคยได้ยินหลายคนพูดว่า ต้องฝึก ต้องหัด บางคนอาจจะใส่แล้วมึน ต้องใช้เวลาปรับตัว พอรับแว่นมา เริ่มจากใส่ปุ๊บ นักทัศนมาตรของร้านแนะนำดังนี้
– ถ้ามองระยะไกลปกติ ก็มองตรง ๆ ไปไกล ๆ เลยค่ะ
– ถ้าต้องอ่านหนังสือ ให้หนิงก้มอ่านปกติแต่ใช้ตากลอกบนล่าง ไม่ใช้วิธีก้มหัว เพื่อป้องกันการมึน
– เวลามองด้านข้าง เช่น การขับรถ ไม่ใช้วิธีเหลือบ แต่หันนิด ๆ แล้วมองค่ะ
– เวลาเดิน มองหน้าปกติ เวลามองพื้น ก็กลอกตามองเลนส์ด้านล่าง
ผลสรุป ใส่แล้วลองทำอย่างที่เขาบอก ลองเดินไปเดินมาในร้าน เดินขึ้นไปชั้น 2 เดินลงด้วย หนิงกลับต้องถามคุณหมอว่า หนิงผิดปกติไหม หนิงไม่รู้สึกมึนหัวอะไรเลย ปกติมาก ๆ คุณหมอบอกว่า นั่นเพราะเป็นคนที่สายตาปรับตัวได้ดี (คิดเองเออเองว่า เพราะเรายังเด็กอยู่ ฮา) แถม ใส่ขับรถกลับบ้านเลยค่า สบายมาก ๆ

มันเป็นอะไรที่ ใช่เลย ไม่ว่าจะมองทางไหน ก็สวยงาม ชัดเจน ไม่ต้องมาแบบ เปลี่ยนแว่นมองใกล้ มองไกลแล้วค่ะ เริ่ดที่สุด รู้งี้ทำไปตั้งนานแล้ว

สำหรับใครที่อยากลองใช้เลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพ เทคโนโลยีจากประเทศฝรั่งเศส ทางเอสซีลอร์รับประกันความพึงพอใจในการสวมใส่ พร้อมเปลี่ยนคู่ใหม่ให้ภายใน 60 วันหลังสั่งซื้อและทดลองใช้ หากพบปัญหามุมมองจากการใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ โดยขยายโปรแกรมรับประกันตลอดปี 2020 #สายตาดีแบบ2020
สามารถติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญร้านแว่นตาพาร์ทเนอร์ของเอสซีลอร์ทั่วประเทศ ได้แล้ววันนี้

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

ส่วนเบลล่า พอหนิงถึงบ้าน ก็รีบเอาของเขาให้ลองใส่อ่าน ใส่เดินทันที เบลล่าก็ไม่มีปัญหาใด ๆ แถมบอกถูกใจมาก แว่นสวยทันสมัย (อารมณ์เริ่มเป็นสาว ไม่ใส่ละ ลายกรอบแว่นแบบเด็ก ๆ ) แถมทำเลนส์ Blue UV Capture หนิงก็สบายใจขึ้นนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้การบ้านก็สั่งทางออนไลน์ทั้งนั้น หนีไม่พ้นการดูหน้าจอในแต่ละวันค่ะ

หนิงสังเกตว่าทั้งหนิงและเบลล่า ไม่มีปัญหามึนหัวใด ๆ หลังจากได้แว่นมา นั่นอาจจะเป็นเพราะการวัดสายตาที่เที่ยงตรง มีคุณภาพ และเลนส์ต้องดีค่ะ หนิงว่าสำคัญมาก รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจไม่ผิด ตัดแว่นทั้งที ก็เลือกวัดจากมืออาชีพ ตรวจสุขภาพตาอย่างละเอียด และเลือกใช้ทั้งแวนและเลนส์ที่มีคุณภาพนะคะ

เราใช้สายตาของเราทั้งวัน ลองคิดดูว่า ถ้าเรามองอะไรไม่เห็นเพียงแค่ 10 หรือ 15นาที เราก็แทบจะขาดใจตาย ฉะนั้นการมองเห็นของเราต้องมีคุณภาพ เพื่อการใช้ชีวิตในแต่ละวันให้ได้อย่างมีความสุข สะดวกและสุขภาพดี อยากฝากไว้ว่า ปัจจุบันมีความเข้าใจผิดมากมาย ความไม่มั่นใจในการเลือกใช้รุ่นเลนส์ แม้แต่การไม่เชื่อว่าเลนส์หนึ่งคู่นี้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า รวมถึงการไม่รู้ว่าจะเลือกใช้บริการจากร้านใด ทำให้คนไม่กล้าลองใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ หากเราไม่เริ่มแก้ไขปัญหาการมองเห็นตามวัยในระยะแรก ๆ นอกจากจะใช้ชีวิตประจำวันได้ยากลำบากยิ่งขึ้น ตาเมื่อยล้ามากขึ้น รอช้าไปก็ไม่มีประโยชน์ จะยิ่งใช้ชีวิตติดขัดมากขึ้น #แก้ไขปัญหาการมองเห็น ตั้งแต่วันนี้ #ยิ่งเร็วยิ่งดี
หนิงขอแนะนำเลยนะคะ เลือกเลนส์เอสซีลอร์ เพื่อความอุ่นใจในการมองเห็นค่ะ

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

ขอขอบคุณ เลนส์เอสซีลอร์ แว่น Bolon และร้าน Vora Visions สำหรับการดูแลเราสองคนอย่างดีนะคะ
รายละเอียดเพิ่มเติมไปหาอ่านตามนี้เลยค่ะ

www.essilor.co.th/
www.voravisions.com
www.bolon.co.th

instagram

แม่หนิงและเบลล่าไปตัดแว่นสายตาเพื่อสุขภาพดวงตากัน

หนิง
ศรัยฉัตร กุญชรฯ จีระแพทย์

Back To Top